8 สิ่งที่ไม่ควรทำเวลาทะเลาะกัน


  1. โยนความผิดให้อีกฝ่าย
    เคยไหมที่คำว่า "คุณไม่เคยเข้าใจฉันเลย" ทำให้อะไร ๆ กลับยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม คุณอาจจะเมินหน้าหนี ไม่พูดไม่จากัน คุณอาจจะหันหลังให้กันในขณะที่บรรยากาศแห่งความน่าอึดอัดนั้นจะยังคง อัดแน่นอยู่ในหัวใจ...

    นั่น เพราะความเข้าใจกันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ความรักมั่นคง คุณจึงไม่ควรโทษว่าความผิดพลาดหรือการกระทบกระทั่งกันด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้น เป็นผลมาจากการที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ใส่ใจหรือรักที่นับวันจะยิ่งลดน้อยลงจนคุณ รู้สึกได้บางครั้งมันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น เรื่องของคนสองคนไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนผิดเสมอไปท้ายที่สุดคุณอาจพบว่า เรื่องจริงของความไม่เข้าใจนั้นอาจเกิดจากการที่คุณสองคนไม่รู้จักปรับตัว เข้าหากันก็เป็นได้

     
  2. ยกเอาจุดอ่อนของอีกฝ่ายขึ้นมาพูด
    เมื่อถึงจุดหนึ่งที่คุณไม่รู้จะยกอ้างสรรหาคำพูดอะไรที่จะมาด่าทอใส่กัน คุณอาจจะพลั้งเผลอยกเอาข้อด้อยของอีกฝ่ายขึ้นมาพูดอย่างไร้เหตุผลคุณเชื่อไหม...หลาย คู่ต้องจบกันด้วยสาเหตุจากเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้เอง ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่คุณจะหยิบยกเอาจุดอ่อนของคนรักขึ้นมาพูดเพราะก่อน ที่คุณจะคบกันนั่นหมายความว่าคุณสามารถยอมรับความเป็นตัวเขาหรือเธอได้ ตั้งแต่แรกแล้ว ดีไม่ดีการกระทำเช่นนี้อาจทำให้คุณดูแย่ลงในสายตาคนรักและสุดท้ายคุณอาจจะ กลายเป็นคนผิดในเรื่องนั้น ๆ ก็เป็นได้
  3. ขุดเรื่องเก่าขึ้นมาพูดเป็น "ครั้งที่ล้าน"
    เรื่องเก่า ๆ ก็คือเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ประโยชน์อะไรที่คุณจะไปรื้อฟื้นมันขึ้นมาเพื่อทำให้บรรยากาศที่มันคุกรุ่นอยู่แล้วยิ่งแยาลงไปอีก คุณรู้ไหมว่าการกระทำเช่นนั้นนอกจากจะไม่ทำให้กลับมาคืนดีกัน ความรักที่คุณสองคนเคยมีให้แก่กันก็รังแต่จะลดน้อยลงไปกว่าเดิมอีกด้วย
  4. ตำหนิกันไปมา
    เป็น เรื่องดีหากคนสองคนจะเปิดใจพูดกันว่าต่างฝ่ายต่างมีข้อเสียที่ต้องปรับ ปรุงอย่างไรแต่บรรยากาศที่ไม่เป็นใจอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย คุณคงไม่อาจเปิดใจกว้างรับฟังคำตำหนิจากอีกฝ่ายในขณะที่ความโกรธเข้าครอบงำ จตใจเป็นแน่ ถ้าอยากจะติเตียนกันแล้วล่ะก็...รอให้อารมณ์เย็นกว่านี้ก่อนดีไหม?
  5. โยนข้าวของใส่กัน
    ข้าวของในที่นี่คงไม่ได้หมายความว่าเป็นการปาหมอนใส่กันอย่างในมิวสิควิดีโอ แต่เป็นของใกล้มือ ไม่ว่าจะแก้วน้ำ จาน ชาม ของแข็ง หรืออาจจะของมีคม ที่ให้ผลไม่ดีด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากของจะเสียแล้ว คุณก็อาจจะเจ็บตัว และยังได้แผลเป็นของแถมจากการทะเลาะกันอีกด้วย
  6. ใช้คำหยาบ
    คงเป็นเรื่องแย่ถ้าหากคุณจะต้องทนฟังถ้อยคำหยาบคายจากอีกฝ่าย ซึ่งมันคงจะไม่แปลกอะไรหรอกถ้าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชาย ดังนั้นคุณสาว ๆ โปรดจำไว้ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายสักแค่ไหน ถ้าคำหยาบจะหลุดจากปากก็ขอให้เป็นวิธีสุดท้ายที่จะเลือกใช้อย่าปล่อยให้บรรยากาศพาไปเป็นอันขาดเชียว เพราะนอกจากจะทำให้ผู้หญิงเราดูแย่แล้ว เปอร์เซ็นต์ที่จะเลิกกันก็มีสูงตามไปด้วย
  7. พาดพิงไปถึงพ่อแม่พี่น้องหรือเพื่อนของอีกฝ่าย
    อย่าปล่อยให้เรื่องส่วนตัวกลายเป็นเรื่องส่วนรวมคุณอาจจะทะเลาะกันก็ขอให้อยู่แต่ในบ้าน แต่อย่าได้พาลไปถึงคนอื่นเป็นอันขาดเชียว โดยเฉพาะคุณสาว ๆ พึงรู้เอาไว้ว่าเรื่องเพื่อนสำหรับผู้ชายถือเป็นของต้องห้ามคุณพาดพิงแม้เพียงนิดเดียว เรื่องเล็ก ๆ มันอาจจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาได้ ในขณะเดียวกันคุณก็ไม่ควรกล่าวอ้างไปถึงญาติพี่น้องเขาด้วย เพราะนอกจากจะเป็นการลามปามอย่างไม่รู้กาละเทศะ คุณก็อาจกลายเป็นยายตัวร้ายในสายตาคนรักโดยไม่รู้ตัว
  8. ไม่พูดด้วย
    ไม่เสมอไปที่ความเงียบจะทำให้คนสองคนเข้าใจกัน การไม่พูดไม่จาอาจทำให้ได้ผลดีบางครั้ง แต่คุณสาว ๆ ต้องอย่าลืมว่าในเรื่องที่ละเอียดอ่อนมนุษย์ผู้ชายที่มาจากดาวอังคารเขาไม่มีวันเข้าใจ การปิดหากเงียบจึงไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง คุณควรลดทิฐิในตัวเองลงเสียบ้างแล้วหันมาเปิดอกคุยกันด้วยความละมุนละไมจะดีกว่า

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ผิดใจ แต่สิ่งที่ทำให้ความรักมั่นคงอยู่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนเป็นสำคัญ คิดเสียว่าบางทีช่วงเวลาที่แย่ ๆ เหล่านั้นอาจช่วยทำให้รักของคุณแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม

6 เรื่อง ไม่เป็นเรื่องที่ ทำให้เลิกกัน

สัมพันธ์รัก สามารถ จบสิ้นได้ด้วยหลายเหตุผล ซึ่งไม่เกี่ยวกับการนอกใจ หรือความแตกต่างจนเข้ากันไมได้ (อย่างที่หลายคนชอบอ้างกัน!) หลายครั้งที่ชีวิตรักต้องจบสิ้นลงเพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เป็นกำลังใจให้อีก ฝ่ายหนึ่ง หรือแค่ไม่รู้จักฟัง! มาทำความรู้จักโรคเรื้อรังที่บ่อนทำลายความรักของคุณอย่างช้า ๆ และยุติมันก่อนที่ชีวิตรักของคุณจะต้องยุติลง!

5 เรื่องไม่เป็นเรื่องที่ทำให้เลิกกันมานักแล้ว

1. ตีโพยตีพาย เวลาที่คู่รักของคุณพูดหรือทำอะไรบางอย่าง ที่ทำให้คุณโกรธหรือไม่มั่นใจ ลองบอกตัวเองไม่ให้ตีโพยตีพายใหญ่โต และฟังคู่รักของคุณพูดโดยไม่ขัดคอ แนะนำว่าแทนที่จะทะเลาะกันในตอนนั้นเพื่อหาความถูกต้อง (ซึ่งอาจจะเป็นความถูกต้องของเราคนเดียวก็ได้!) ลองหาเวลาทำใจให้เย็นลง ไตร่ตรองให้ดีว่า อะไรเป็นยังไง แล้วค่อยมาพูดคุยกันทีหลัง
2. บ่น เราทุกคนต่างรู้ดีว่าเรื่องนี้สามารถทำให้คู่ของเรารำคาญใจได้ และมันยังสามารถทำให้สัมพันธภาพของคุณไปถึงจุดเดือดได้ การทำตัวขี้บ่นเหมือนแม่ หรือพร่ำเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ไม่ช่วยแก้ปัญหาและทำให้คุณใกล้ชิดกันได้ มันมีแต่จะผลักไสให้เขาห่างออกไป ถ้าคุณถามเขาว่าคุณขี้บ่นหรือเปล่าและเขาบอกว่า "ใช่" ก็ลองเริ่มต้นฟังวิธีการที่ตัวเองพูดกับแฟนให้ดี ๆ จากนั้นก็ลองฝึกทักษะการพูดคุยและสื่อสารเสียใหม่
3. ความไม่มั่นใจ ผู้หญิงและ ผู้ชายต่างก็ต้องการ สิ่งเดียวกัน คนที่มั่นใจและเข้มแข็งไม่ใช่คนที่ต้องการความมั่นใจและการยืนยันตลอดเวลา เหมือนเด็ก ๆ ไม่มีใครอยากได้คนป่วยมาเป็นคู่ เพราะฉะนั้นอย่าทำให้คู่ของคุณกลายเป็นนักบำบัด คุณจะทำให้เขาเบื่อหน่าย อิดหนาระอาใจ และเริ่มตีตัวออกห่าง ออกจากหลุมพรางของ ความไม่มั่นใจ ด้วยการทำรายการของความไม่มั่นใจของคุณ เช่น น้ำหนักตัว รูปร่าง หรือความกลัวอะไรก็ตาม และมาทบทวนดูด้วยกัน แล้วหาหนทางที่จะเอาชนะมันด้วยกันโดยไม่ต้องทำตัวน่าเบื่อน่ารำคาญ
4. ตัวติดกัน ลองจับตาดูเวลาที่คุณอยู่คนเดียวว่ามีมากแค่ไหน เนื่องจาก คู่รัก ทุกคู่ ไม่ควร ใช้เวลาว่างทั้งหมดที่มีด้วยกัน ลองหากิจกรรมของตัวเองที่ชอบ เช่น ไปยิม ไปเข้าคลาสงานฝีมือหรือเรียนอะไรที่คุณชอบ ไม่มีใครเป็น "ทุกสิ่งทุกอย่าง" ของใครได้ การกดดันให้ใครสักคนเติมเต็มความต้องการของคุณทุกอย่าง นอกจากจะไม่มีวันเป็นไปได้แล้ว คุณยังมีแต่จะผลักไสเขาให้ยิ่งห่างออกไป
5. พฤติกรรมน่าระอา นิสัยที่คุณมักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการบ้าช้อปปิ้ง การชอบเที่ยวกลางคืน การดื่มจัด หรืออะไรก็ตามทำให้คู่รักของคุณประสาทเสีย สามารถทำลายสัมพันธภาพของคุณได้ คุณควรหาให้เจอว่าคุณมีนิสัยเสีย ๆ อะไรที่ห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ยอมรับพฤติกรรมตัวเอง และบอกเขาว่าคุณกำลังหาทางจัดการกับมันอยู่ หรือหาวิธีที่จะรับมือกับมันร่วมกัน
6. การโกหก บางทีบางคนนั้นชอบโกหกเป็นนิสัย ทั้งที่บางที่ก็ไม่ได้ตั้งใจ ถ้าอีกฝ่ายไม่เข้าใจก็คงไม่เป็นไร แต่เรื่องแบบนี้ น้อยคนนักที่จะยอมเข้าใจ